ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

พลาสปอร์ต&วีซ่า คนละเรื่องเดียวกัน

มาเข้าใจให้ถูกต้องกันค่ะ “พลาสปอร์ตและวีซ่า” เหมือนหรือต่างกันอย่างไร เชื่อเลยคะว่าหลายๆ คนคงคุ้นหูรู้จักกันดี จากการได้ยินได้ฟัง ไม่ว่าจะมาจากหนัง ละครดังหลังข่าว แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าทั้งสองอย่างนี้ มันคนละเรื่องเดียวกันนะคะ😉 ยังไงนั้นหรอ เรามาเข้าเรื่องกันเลยคะ


พลาสปอร์ต (Passport) หนังสือเดินทางหรือบัตรประจำตัวประชาชนสำหรับพลเมืองของประเทศนั้นๆ (เมื่ออยู่ต่างประเทศ) เช่น พลาสปอร์ตไทย ออกให้สำหรับคนไทยเท่านั้น เราสามารถขอพลาสปอร์ตได้ที่ กรมการกงสุลไทยและสำนักงานหนังสือเดินทาง



พลาสปอร์ตไทยหรือหนังสือเดินทางไทย สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ โดยไม่ต้องขอวีซ่า กล่าวคือ ฟรีวีซ่านั้นเอง



32 ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า/ฟรีวีซ่า


รายชื่อประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า (Free Visa) สำหรับพลาสปอร์ตบุคคลธรรมดา

  • 14 วัน : บาห์เรนบรูไนกัมพูชาเมียนมา
  • 15 วัน : ญี่ปุ่น
  • 30 วัน : มณฑลไห่หนาน ประเทศจีนฮ่องกงอินโดนีเซียลาวมาเก๊ามาเลเซียมองโกเลียมัลดีฟส์ฟิลิปปินส์กาตาร์รัสเซียเซเชลส์สิงคโปร์แอฟริกาใต้ไต้หวันตุรกีวานูอาตูเวียดนาม
  • 90 วัน : แอลแบเนียอาร์เจนติน่าบราซิลชิลีเอกวาดอร์เกาหลีใต้เปรู
  • 180 วัน : ปานามา 
  • 360 วัน : จอร์เจีย

#ปล หลังจากลงบทความนี้ไปแล้ว ข้อมูลประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ควรตรวจเช็กข้อมูลที่เว็บไซต์ของกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ อีกครั้ง



เดินท่องเที่ยวแบบฟรีวีซ่า (Free Visa) ต้องเตรียมอะไรอีกบ้าง?

  • พลาสปอร์ต (Passport)
  • หนังสือรับรองการทำงาน (Certificate of employment)
  • สมุดบัญชีที่มีความเคลื่อนไหวทุกเดือน
  • กรณีเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะหรือผู้เยาว์ จำเป็นต้องมีสูติบัตรติดตัวไว้เสมอ และในกรณีที่เด็กไม่ได้เดินทางไปกับพ่อแม่ ผู้ที่พาไปต้องมีสูติบัตรพร้อมหนังสือรับรองจากผู้ปกครองของเด็กที่ขอมาจากที่ทำการเขตเป็นฉบับภาษาอังกฤษแนบมาด้วย
  • กรณีลูกที่ออกค่าใช้จ่ายให้พ่อและแม่ หรือพ่อแม่ที่ออกค่าใช้จ่ายให้ลูกตลอดการเดินทางต้องมีหนังสือสปอนเซอร์ (Sponsor) ถือไปพร้อมสูติบัตรด้วย
  • ตั๋วเครื่องบินการเดินทาง ขาไปและกลับ
  • หลักฐานการจองที่พักเป็นหลักแหล่งชัดเจน
  • แผนการเดินทางอย่างละเอียด เพื่อแสดงให้เจ้าหน้าที่เห็นว่าเรามาเพื่อท่องเที่ยว ไม่ได้มีเจตนาอื่นที่ผิดกฎหมายและต้องอธิบายตามแผนได้ กรณีที่ถูกสอบถามหรือเรียกดูเอกสาร (เข้าห้องเย็น)

#ปล. เอกสารเหล่านี้เป็นหลักฐานที่ช่วยยืนยันได้ว่าเรามาเพื่อเดินทางท่องเที่ยวจริงๆ 



วีซ่า (Visa) คือ หนังสือเดินทางสำหรับชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าไปในประเทศนั้นๆ เช่น หากเรามีแฟนชาวต่างชาติแฟนของเราต้องการมาเยี่ยมเราที่ไทย แฟนต้องทำวีซ่าไทยก่อนจึงจะเข้ามาในประเทศของเราได้ แต่ต้องตรวจสอบให้ดีก่อนนะค่ะ อย่างที่บอกคะพลาสปอร์ตแต่ละประเทศจะมีข้อยกเว้นไม่ต้องมีวีซ่าก็สามารถเข้าประเทศพันธสัญญาได้ดังนั้นเราควรตรวจสอบให้ดีก่อนที่เราจะเดินทางค่ะ ว่าฟรีวีซ่าหรือไม่ สำหรับผู้ที่ต้องการทำวีซ่าสามารถติดต่อสถานทูตหรือศูนย์รับยื่นคำร้องขอวีซ่าโดยตรง บางประเทศสามารถยื่นขอออนไลน์ได้ และบางประเทศขอวีซ่าที่สนามบินปลายทางได้เลยคะ อธิบายแบบง่ายๆ แล้วก็คือ พลาสปอร์ต ก็คือบัตรประชาชนสำหรับใช้งานทั่วโลก ส่วนวีซ่านั้นก็เป็นบัตรผ่านทางในการเข้าประเทศนั้นๆ นั่นเองค่ะ


ประเภทของพาสปอร์ต


พลาสปอร์ตไทย


พาสปอร์ตของไทยแบ่งเป็น 4 ประเภท ดังนี้


1.  ปกสีน้ำตาล – หนังสือเดินทางธรรมดา (Ordinary Passport) ออกให้สำหรับประชาชนทั่วไป หนังสือเดินทางมีอายุไม่เกิน 5 ปี มี 66 หน้า ไม่สามารถต่ออายุเพิ่มได้


2. ปกสีน้ำเงินเข้ม – หนังสือเดินทางราชการ (Official Passport) มีอายุไม่เกิน 5 ปี ผู้ถือต้องใช้ในราชการเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้ในการเดินทางส่วนตัว มีข้อกำหนดให้ออกให้เฉพาะข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่จัดตั้งตามรัฐธรรมนูญ สมาชิกรัฐสภาซึ่งเดินทางไปราชการในต่างประเทศ และบุคคลอื่นใดที่เดินทางเพื่อทำประโยชน์แก่ทางราชการตามที่กระทรวงการต่างประเทศอนุมัติเท่านั้น

3. ปกสีแดงสด – หนังสือเดินทางทูต (Diplomatic Passport)
มีอายุไม่เกิน 5 ปี ไม่สามารถต่ออายุเพิ่มได้ มีข้อกำหนดออกให้เฉพาะบุคคลดังต่อไปนี้

         3.1 พระบรมวงศ์และพระนัดดาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

         3.2 พระอนุวงศ์ชั้นพระองค์เจ้าและคู่สมรส

         3.3 พระราชวงศ์และบุคคลสำคัญที่ราชเลขาธิการขอไปเป็นกรณีพิเศษ

         3.4 ประธานองคมนตรี และองคมนตรี

         3.5 นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี

         3.6 ประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานและรองประธานวุฒิสภา

          3.7 ประธานศาลฎีกา รองประธานศาลฎีกา และประธานศาลอุทธรณ์

         3.8 
ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และประธานศาลปกครองสูงสุด

          3.9 อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ

          3.10 
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ

          3.11 
ข้าราชการที่มีตำแหน่งทางการทูต ซึ่งเดินทางไปราชการในต่างประเทศ

          3.12 
ข้าราชการที่มีตำแหน่งทางการทูต ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ประจำอยู่  ส่วนราชการในต่างประเทศ คู่สมรส และบุตรในประเทศที่ประจำอยู่หรือทำการศึกษาอยู่ในประเทศอื่น แต่บุตรจะต้องอายุไม่เกิน 25 ปี

          3.13 
คู่สมรสที่ร่วมเดินทางไปกับบุคคลดังกล่าวในข้อ 3.2-3.8

          3.14 
บุคคลอื่นใดเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการหรือภายใต้พันธกรณีระหว่างประเทศ หรือภายใต้สถานการณ์พิเศษที่มีความจำเป็น หรือเผยแพร่ชื่อเสียงเกียรติคุณของประเทศไทย

4. ปกสีเขียว – หนังสือเดินทางชั่วคราว (Temporary Passport)

 


ประเภทของวีซ่า


วีซ่าเป็นกระดาษหรือสติ๊กเกอร์ติดอยู่ในหน้าของพลาสปอร์ตของเรา


วีซ่า เป็นรอยตราประทับหรือแผ่นกระดาษสติ๊กเกอร์ติดอยู่ในพลาสปอร์ตนะค่ะ วีซ่าแบ่งออกเป็นหลายประเภท ตามวัตถุประสงค์ในการเดินทางดังนี้

1. ประเภทคนเดินทางผ่านราชอาณาจักร (Transit Visa)
จะออกให้แก่คนประเทศที่ไม่ได้ถือสัญชาตินั้น ที่ประสงค์จะเดินทางเข้า มาในประเทศ เพื่อ เดินทางผ่านเล่นกีฬาเป็นผู้ควบคุมพาหนะหรือเป็น คนประจำพาหนะที่เข้ามายังท่า โดยจะมีอายุวีซ่า 3 เดือน พักได้ไม่ เกินครั้งล่ะ 30 วัน

2. ประเภทนักท่องเที่ยว (Tourist Visa) จะออกให้แก่คนประเทศที่ไม่ได้ถือสัญชาตินั้นที่ประสงค์จะเดินทางเข้า มาในประเทศ เพื่อ การท่องเที่ยว โดยจะมีอายุวีซ่า 3 เดือน หรือ 6 เดือน พักได้ไม่เกินครั้งล่ะ 60 วัน

3. ประเภทคนอยู่ชั่วคราว (Non-Immigrant Visa) จะออกให้แก่คนประเทศที่ไม่ได้ถือสัญชาตินั้นที่ประสงค์จะเดินทางเข้า มาในประเทศ เพื่อ การปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ การติดต่อประกอบธุรกิจ การทำงาน การลงทุนที่ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงที่เกี่ยวข้อง การ เข้ามาใช้ชีวิตในบั้นปลายในฐานะผู้สูงอายุ การเข้ามาในประเทศเพื่อการ รักษาพยาบาล โดยมีอายุวีซ่า 3 เดือนสำหรับเดินทางครั้งเดียว หรือ 1 ปีสำหรับเดินทางหลายครั้ง พักได้ไม่เกินครั้งล่ะ 90 วัน

4. ประเภททูต (Diplomatic Visa) จะออกให้แก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ทางการทูตหรือกงสุล หรือการปฏิบัติ หน้าที่ราชการ และผู้ร้องจะต้องถือหนังสือเดินทางทูต หรือ หนังสือเดินทางสหประชาชาติซึ่งเทียบเท่าหนังสือเดินทางทูต เท่านั้น โดยพักได้ไม่เกินครั้งล่ะ 90 วัน

5. ประเภทราชการ (Official Visa) จะออกให้ในการขอรับการตรวจลงตราเข้ามาในประเทศเป็นการชั่วคราวเพื่อ ปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ และผู้ร้องจะต้องถือหนังสือเดินทางราชการหรือหนังสือเดินทางสหประชาชาติ ซึ่งเทียบเท่าหนังสือเดินทางราชการเท่านั้น โดยพักได้ไม่เกินครั้งล่ะ 90 วัน

6. ประเภทอัธยาศัยไมตรี (Courtesy Visa) จะออกให้เฉพาะ การขอรับการตรวจลงตราเข้ามาในราชอาณาจักร เป็นการชั่วคราว หรือการขอรับการตรวจลงตราของผู้ถือหนังสือเดินทาง ธรรมดาโดยจะมีอายุวีซ่า 3 เดือน หรือ 6 เดือน พักได้ไม่เกินครั้งล่ะ 90 วัน


วิธีจำง่ายๆ ของเรา “หนังสือเดินทางคือ บัตรประชาชนเวอร์ชั่นใช้ทั่วโลกสำหรับคนไทยก็ไปทำได้ที่กระทรวงการต่างประเทศ (กองหนังสือเดินทาง กรมการกงสุลส่วน วีซ่า คือ บัตรผ่านเข้าประเทศ อันนี้ต้องไปขอที่สถานทูตของประเทศที่เราจะไป” เลือกใช้ให้ถูกนะจ๊ะ 😄😄


ขอบคุณข้อมูลจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

USA prenatal care & check up! ตั้งครรภ์ในอเมริกา ฝากครรภ์กี่เดือน ควรฝากตอนใหน?

การฝากครรภ์   คืออะไร ? การฝากครรภ์  (Prenatal care)  คือ การตรวจสุขภาพเป็นระยะ   ตั้งแต่รู้ตัวว่าตั้งครรภ์จนกระทั่งถึงวันคลอด   โดยคุณหมอจะคอยตรวจความเรียบร้อยเกี่ยวกับสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ สิ่งที่คุณแม่ต้องได้รับการตรวจในช่วงการฝากครรภ์ มีดังนี้ ยืนยันการตั้งครรภ์   รวมถึงตรวจอายุครรภ์จากรอบประจำเดือนล่าสุด ซักประวัติ  คุณหมอ จะถามเรื่องทั่วไป   เช่น   เคยตั้งครรภ์มาก่อนไหม   มีโรคประจำตัวหรือเปล่า   ยาที่ใช้ประจำ   เป็นต้น ตรวจร่างกาย   แบ่งเป็นสองส่วนหลักๆ   ส่วนแรกคือตรวจทั่วไป   เช่น   วัดความดัน   ชั่งน้ำหนัก   ส่วนสูง   ตรวจการทำงานของปอด   อีกส่วนคือการตรวจภายใน   ซึ่งใช้เวลาสั้นๆ   แต่สามารถเช็คความผิดปกติได้ทั้งรังไข่   ท่อนำรังไข่   ช่องคลอด   รวมถึงมะเร็งปากมดลูก   ที่สำคัญคือไม่เจ็บ ตรวจเลือด   เปรียบเสมือนการสกรีนร่างกาย   เพราะเลือดสามารถบอกค่าต่างๆ   ในร่างกายได้เป็นภาพกว้าง   เช่น  ไขมัน  เบาหวาน...

นิทานเรื่อง เพื่อนรักต่างพันธุ์ (A Special Friendship)

In a village, there was a boy named “Bob” who lived with his mother in a small house. Every day after class, Bob went into the forest to pick up woods with his mother. อิน อะ วิลเลจ, แธร์ วอส อะ บอย เนม-มึด “ป๊อบ” ฮู ลิฟ-ดึด วิธ ฮีส ม๊าเตอร์ อิน อะ สมอลล์ เฮาส์. เอฟเวอรี่ เดย์ อาฟเตอร์ คลาส, ป๊อบ เว็นท์ อินทู เดอะ ฟอเรสท์ ทู พิค อัฟ วูดส์ วิธ ฮิส ม๊าเตอร์. ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง, มีเด็กชายคนหนึ่ง เค้ามีชื่อว่า “ป๊อบ” เขาได้อาศัยอยู่กับมารดาในบ้านหลังน้อยๆ หลังหนึ่ง. ในทุกๆ วัน หลังจากเลิกเรียนแล้ว, ป๊อบมักจะเข้าไปในป่า เพื่อหาฟืนกับแม่ของเค้า. One day, on the way to the forest, Bob found a homeless puppy by the road. He looked so sad and miserable. Seeing how hungry the puppy was, Bob decided to bring him home to take care of him. วัน เดย์, ออน เดอะ เวย์ ทู เดอะ ฟอเรสท์, ป๊อบ ฟาวด์ อะ โฮมเลส พัพพี่ บาย เดอะ โรด. ฮี ลุ๊ค โซ แซด แอนด์ มิสราเบิ้ล. ซียิ้ง ฮาว ฮังกรี เดอะ พัพพี่ วอส, ป๊อบ ดีซาย-ดึด ทู บริง ฮิม โฮม ทู เทค แคร์ ออฟ ฮิม. อยู่มาวันนึง, ในระหว่างทางเดินเข้าไปในป่านั้น, ป๊อบได้เจอกั...

ชิลี่ (Classic Chili) อเมริกัน จานเผ็ด!

ชิลี่ (Chili) อาหารสุดคลาสสิคจานเผ็ดจานด่วนของชาวอเมริกัน  หรือเรียกเต็มๆ ยศว่า “อเมริกันชิลี่ (American Chili)”  “ชิลี่” (Chili) แปลง่ายๆ ตรงๆ ว่า "พริก" นี่แหละจร้าา ไม่ต้องโต๊ด!   “ชิลี่” เป็นอาหารจานหนึ่งของชาวอเมริกัน ที่มีรสเผ็ดนำ โดดเด่น เผ็ดดุ สำหรับฝรั่งเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่นับคนเอเชียอย่างเราๆ หึหึ เผ็ดอนุบาลยังเรียกน้องจ๊ะ! “ชิลี่” มีลักษณะคล้ายๆ กับ “น้ำพริกอ่อง” บ้านเรา ต่างกันตรงที่มี “เมล็ดถั่วแดง” เป็นส่วนผสม ต้มให้นุ่ม แต่ไม่เปื่อยยุ่ยมากนัก มีรสเผ็ดออกมันๆ อมเปรี้ยวนิดๆ โปรตีนเน้นๆ อ่ะ! เริ่มงงกันแล้วสิ ชิมิ ^^ “ชิลี่” นิยมทำเป็นอาหารมื้อค่ำ เพราะว่าสะดวก วัถตุดิบหาง่าย ทำง่าย ใช้เวลาตุ๋นไม่นาน “หัวหอมใหญ่” สิ่งเดียวเท่านั้นที่ต้องเตรียม! “ชิลี่” ท๊อปปิ้งสุดฮิต เพื่อเพิ่มความอร่อยมากยิ่งขึ้น เชดดาร์ชีสขูดฝอย (shredded cheddar cheese) ซาวครีม/ครีมเปรี้ยว (sour cream) ต้นหอมซอย (sliced green onions) แครกเกอร์ชนิดเค็ม (saltine crackers) อะโวคาโดหั่นลูกเต๋า (diced avocado) หลังจากแกะสูตรจากพี่กลู (กลูเกิ้ล) ฝึกทำ “ชิลี่” ลองผิดลองถูกมาก็หลายครั้งหลายคราว จน...

นิทานเรื่อง “เจ้าหญิงบนยอดเขาแก้ว” (The Princess On The Glass hill)

Long, long time ago, there lived a farmer who had three sons and forty acres of fields. But every year on mid-summers, every last plant on his land was eaten. The farmer sent his three sons out to guard the field the next year. ลอง, ลอง ไทม์ อะโก, แธร์ ลิฟ-ดึด อะ ฟาร์มเมอ ฮู แฮด ตรี ซัน แอนด์ ฟอร์ตี้ เอเคอร์ ออฟ ฟิล์ด. บัท เอเวอรี่ เยียร์ ออน มิด-ซัมเมอร์, เอเวอรี่ ลาสท์ แพลนท์ ออน ฮีส แลนด์ วอส อีท-ทีน. เดอะ ฟาร์มเมอ เซนท์ ฮีส ตรี ซัน เอาซ์ ทู การ์ด เดอะ ฟิล์ด เดอะ เน็ทซ์ เยียร์. กาลครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว, ชาวนาคนหนึ่ง เค้ามีลูกชายอยู่ด้วยกันสามคน และชาวนามีที่ทำกินสี่สิบเอเคอร์ (ประมาณร้อยกว่าไร่). แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางฤดูร้อนของทุกๆ ปี, ผลผลิตในไร่ของเค้าก็มักจะถูกทำลายเสียหายเรื่อยมา. ดังนั้น ชาวนาจึงได้ส่งลูกชายทั้งสามคนของเค้า ให้ออกไปเฝ้าดูแลผลผลิตในไร่. The oldest son, Barty, was very tall and very thin.  The middle son, Otis, was very fat and lazy.  That night he heard a scream and ran from the field. เดอะ โอลด์เดสท์ ซัน, บาร์ตี๊, วอส เวรี่ ทอล แอนด์ เวรี่ ธิน....

นิทานสองภาษาเรื่อง “เจ้าป่าจอมตะกละและกระต่ายป่าผู้ชาญฉลาด (The lion and the hare)

Once upon a time, there was a dense forest, where had lots of animals and birds living it. วันซ์ อัพพอน อะ ไทม์, แธร์ วอส อะ เดนส์ ฟอร์เรส, แวร์ แฮด ลอท ออฟ แอนนิมอล แอนด์ เบิร์ด ลิฟวิ่ง อิท. กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว, มีป่าหนาทึบอยู่แห่งหนึ่ง, ที่ซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์ป่าและนกต่างๆ นานาชนิด อาศัยอยู่ในนั้น. All the animals and birds lived in perfect harmony. No bigger animal or bird ever killed a smaller one for food. ออล เดอะ แอนนิมอล แอนด์ เบิร์ด ลิฟต์-ดึด อิน เพอเฟคท์ ฮาร์มโมนี่. โน บิ๊กเกอร์ แอนนิมอล ออร์ เบิร์ด เอฟเวอร์ คิว-ดึด อะ สมอลเลอร์ วัน ฟอร์ ฟู๊ด. เหล่าสัตว์ป่าและนกนานาชนิด ต่างอาศัยอยู่ด้วยกันอย่างผาสุข. ไม่มีสัตว์ใหญ่นักล่าไล่ฆ่าสัตว์ตัวเล็กๆ เป็นอาหารเลย หรือแม้กระทั่งพวกนกนักฆ่าเอง ก็ไม่ล่าอาหารเช่นกัน. However, there was one exception, and that was the king of the jungle- an evil lion. The lion hunted around the forest at all times and killed animals for food. ฮาวเอฟเวอร์, แธร์ วอส วัน เอ็กเซ็บชั่น, แอนด์ แธท วอส เดอะ คิง ออฟ เดอะ จังเกิ้ล- อัน อีวิ้ว ไลออน. เดอะ ไลออน ฮัน...