ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

นิทานเรื่อง “หัวผักกาดยักษ์ (The Giant Turnip)”


Once upon a time, there was an old man. He lived with his wife, a grandson, a little brown dog, a tiny white cat and a sweet pink-nosed mouse in a grand old farmhouse.

วันซ์ อะพอน อะ ไทม์, แธร์ วอส อัน โอลด์ แมน. ฮี ลิฟ-ดึ วิธ ฮีส ไวฟ์, อะ แกรนด์ซัน, อะ ลิตเติ้ล บราวน์ ด๊อก, อะ ไทนี่ ไวท์ แคท แอนด์ อะ สวีท พิงค์-โนซ เมาส์ อิน อะ แกรนด์ โอลด์ ฟาร์มเฮาส์.

  • กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว, ที่นั้นมีชายชราอยู่คนหนึ่ง. เขาอาศัยอยู่กับภรรยา, หลานชายคนหนึ่ง, เจ้าหมาสีนำ้ตาลน้อยตัวหนึ่ง, เจ้าแมวขาวตัวน้อยๆ หนึ่งตัว, และเจ้าหนูจมูกชมพูอีกหนึ่งตัว ทั้งหมดอาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านโบราณหลังใหญ่ท้ายสวน. 

One day, the man told his wife, "Dear wife, I am going to plant turnip seed. When it grows good and big, we will have delicious turnip soup!" He took the seed and planted it in a patch of healthy brown soil. 

วัน เดย์, เดอะ แมน โทล์ด ฮีส ไวฟ์, “เดียร์ ไวฟ์, ไอ แอม โกอิ้ง ทู พลานท์ เทอนิพ ซีด. เว็น อิท กรูว กู๊ด แอนด์ บิ๊ก, วี วิล แฮป เดลลิเซียส เทอนิพ ซุป!” ฮี ทู๊ก เดอะ ซีด แอนด์ พลาน-ทึด อิท อิน อะ แพท์ซ ออฟ เฮล์พตี้ บราวน์ ซอยล์.

  • วันหนึ่ง, ชายชราบอกกับภรรยาว่า, “ที่รัก, ฉันกำลังจะเพาะเมล็ดหัวผักกาด, เมื่อมันโตเต็มที่และหัวใหญ่พอดี, เราก็จะมีหัวผักกาดแสนอร่อยไว้ทำชุปกินกันแล้วนะ!”  จากนั้นชายชราก็ได้นำเมล็ดหัวผักกาดมาปลูกลงในแปลงผักเล็กๆ ที่มีดินร่วนสีน้ำตาลที่อุดมสมบูรณ์อยู่ในนั้น. 

Each and every day, he watered it. When the lightning and thunder came, the raindrops danced over it. And when the sun shined, the sunbeams dazzled and kept it warm.

อีซ แอนด์ เอพเวอรี่ เดย์, ฮี วอเตอ-ดึด อิท. เว็น เดอะ ไลเทนนิ่ง แอนด์ ธันเดอร์ เคลม, เดอะ เรนดร็อป แดนซ์ โอเวอร์ อิท. แอนด์ เว็น เดอะ ซัน ซายด์, เดอะ ซันบีม แดซเซิล แอนด์ เค็ปท์ อิท วาร์ม.

  • ในแต่ละวัน, ชายชราก็หมั่นรดน้ำเมล็ดผักอย่างสม่ำเสมอ. เมื่อท้องฟ้ามืดครึ้มพายุฝนพัดผ่านเข้ามา, สายฝนได้ร่วงหล่นลงบนแปลงผัก. เมื่อถึงยามเช้าพระอาทิตย์เริ่มส่องแสง, แสงแดดที่เจิดจ้าทำให้เมล็ดพันธุ์อบอุ่นขึ้น.

"Grow big my little seed," the old man would say every day. Then one day, two little shoots popped out and grew bigger and bigger with each passing day.

“โกร์ว บิ๊ก มาย ลิตเติ้ล ซีด,” เดอะ โอลด์ แมน วู๊ด เซย์ เอฟเวอรี่ เดย์. เด็น วัน เดย์, ทู ลิตเติ้ล ซูทส์ พอพ-เผ็ด เอาซ์ แอนด์ กรูว์ บิ๊กเกอร์ แอนด์ บิ๊กเกอร์ วิธ อีช พ๊าซซิ่ง เดย์.

  • “โตเร็วๆ นะ เจ้าเมล็กผักเล็กๆ ของฉัน,” ชายชราพูดกับเมล็ดผักทุกๆ วัน. และแล้ววันหนึ่ง, ได้มีต้นอ่อนสองต้นโผล่ขึ้นมาจากพื้นดินและเริ่มเติบโต ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ วัน. 

One fine day, the man knew it was the time. "Dear wife, tonight we shall eat turnip soup." he said and he put a big pot of water on to boil.

วัน ฟายด์ เดย์, เดอะ แมน นิว อิท วอส เดอะ ไทมึ. “เดียร์ ไวฟ์, ทูไนท์ วี แซล อีท เทอนิพ ซุป.” ฮี เซด แอนด์ ฮี พุท อะ บิ๊ก พอท ออฟ วอเตอร์ ออน ทู บอยล์.

  • ในวันที่ฟ้าสดใสวันหนึ่ง, ชายชรารู้ว่ามันถึงเวลาของการเก็บเกี่ยวแล้ว. เขาเอ่ยขึ้นว่า “ที่รัก, เย็นนี้เราควรทำชุปหัวผักกาดทานกันนะ.” พลางวางหม้อน้ำใบใหญ่เพื่อต้มน้ำรอ. 

He went into the garden and reaching down, took hold of the shoots and he began to pull. And he pulled, and he pulled, and he pulled but the turnip was stuck fast.

ฮี เว็นท์ อินทู เดอะ การ์เดน แอนด์ รีด-ซิ่ง ดาวน์, ทู๊ก โฮล์ด ออฟ เดอะ ซูท แอนด์ ฮี บีแกน ทู พูล. แอนด์ ฮี พูล-ดึด, แอนด์ ฮี พูล-ดึด, แอนด์ ฮี พูล-ดึด บัท เดอะ เทอนิพ วอส สตั๊ค ฟาสท์.

  • ชายชราได้เข้าไปในสวนและได้ลงมือ, เริ่มขุดหัวผักกาด จากนั้นก็เริ่มดึงมันขึ้นมา. เขาเพิ่มแรงดึง, ดึง, และดึงอีกครั้ง แต่หัวผักกาดก็ยังติดอยู่ใต้ดินอย่างเหนียวแน่น.

He called to his wife. "Dear wife! Would you please come and help me pull the turnip?" he asked. So, the wife held onto husband and he held onto the shoots and together they pulled and they pulled and they pulled, but the turnip stuck fast.

ฮี คอล-ดิด ทู ฮีส ไวฟ์. “เดียร์ ไวฟ์! วู๊ด ยู พลีส คัม แอนด์ เฮล์พ มี พูล เดอะ เทอนิพ?” ฮี อ๊าค-คึด. โซ, เดอะ ไวฟ์ เฮล์ด ออนทู ฮัสแบรนด์ แอนด์ ฮี เฮล์ด ออนทู เดอะ ซูท แอนด์ ทูเก็ทเตอร์ เดย์ พูล-ดิด แอนด์ เดย์ พูล-ดิด แอนด์ เดย์ พูล-ดิด, บัท เดอะ เทอนิพ สตัค ฟาสท์.

  • ชายชราร้องเรียกภรรยาของเค้าว่า. “ที่รัก! เธอช่วยมาตรงนี้หน่อย มาช่วยกันดึงหัวผักกาดหน่อยได้มั๊ย?”. หลังจากนั้น, หญิงชราได้เกาะเอวสามีไว้ส่วนชายชราดึงหัวผักกาด พวกเขาร่วมมือลงแรงกันดึง ดึง และดึง แต่หัวผักกาดก็ยังติดอยู่ใต้ดินอยู่อย่างนั้น.

She called to their dearest grandson "Dear grandson, would you come and help us pull the turnip?"

ซี คอล-ดิด ทู แธร์ เดียร์-เอ็ท แกรนด์ซัน “ เดียร์ แกรนด์ซัน, วู๊ด ยู คัม แอนด์ เฮล์พ อัส พูล เดอะ เทอนิพ?”
  • หญิงชราได้ร้องเรียกหลานชายสุดที่รักว่า “หลานรัก, ช่วยออกมานี้หน่อย มาช่วยตากับยายดึงหัวผักกาดที?”

So, the grandson held onto grandma, who help onto grandpa, who held onto the shoots and they pulled and they pulled and they pulled, but still the turnip stuck fast.

โซ, เดอะ แกรนด์ซัน เฮล์ด ออนทู แกรนด์ม่า, ฮู เฮล์พ ออนทู แกรนด์ป้า, ฮู เฮล์ด ออนทู เดอะ ซูท แอนด์ เดย์ พูล-ดิด แอนด์ เดย์ พูล-ดิด แอนดึ เดย์ พูล-ดิด, บัท สติล เดอะ เทอนิพ สตั๊ค ฟาสท์.

  • หลังจากนั้น, หลานชายได้เกาะเอวยายไว้, ส่วนยายได้เกาะเอวตาไว้, ส่วนตาได้ดึงหัวผักกาดไว้ จากนั้นพวกเขาก็ช่วยกันออกแรงดึง ดึง แล้วดึงอีก, แต่หัวผักกาดก็ยังติดอยู่ใน้ดินอยู่อย่างนั้น.

So, the grandson called the little brown dog and he held onto the grandson, who held onto grandma, who held onto grandpa, who held onto the shoots and they pulled and they pulled and they pulled, but still the turnip stuck fast!

โซ, เดอะ แกรนด์ซัน คอล-ดึด เดอะ ลิตเติ้ล บราวน์ ด๊อก แอนด์ ฮู เฮล์ด ออนทู เดอะ แกรนด์ซัน, ฮู เฮล์ด ออนทู แกรนด์ม่า, ฮู เฮล์ด ออนทู แกรนด์ป๊า, ฮู เฮล์ด ออนทู เดอะ ซูท แอนด์ เธย์ พูล-ดิด แอนด์ เธย์ พูล-ดิด แอนด์ เธย์ พูล-ดิด, บัท สติล เดอะ เทอนิพ สตั๊ค ฟาสท์!

  • ต่อมา, หลานชายได้ร้องเรียกเจ้าหมาน้อยสีน้ำตาลให้มาช่วยอีกแรง เจ้าหมาน้อยเกาะเอวหลานชายไว้ ส่วนหลานชายก็เกาะเอวยายไว้ ส่วนยายก็ได้เกาะเอวตาไว้ และตาได้ดึงหัวผักกาดไว้อีกที แล้วพวกเขาก็ช่วยกันดึง ดึงแล้วดึงอีก แต่หัวผักกาดก็ยังติดอยู่ใต้ดินอยู่อย่างนั้น.

Soon, the little brown dog called the white cat, and she held onto the little brown dog, who held onto the grandson, who held onto grandma, who help onto grandpa, who held onto the shoots and they pulled and they pulled and they pulled, but still the turnip stuck fast!

ซูน, เดอะ ลิตเติ้ล บราวน์ ด๊อก คอล-ดึด เดอะ ไวท์ แคท, แอนด์ ซี เฮล์ด ออนทู เดอะ ลิตเติ้ล บราวน์ ด๊อก, ฮู เฮล์ด ออนทู เดอะ แกรนด์ซัน, ฮู เฮล์ด ออนทู แกรนด์ม่า, ฮู เฮล์ด ออนทู แกรนด์ป๊า, ฮู เฮล์ด ออนทู เดอะ ซูท แอนด์ เธย์ พูล-ดิด แอนด์ เธย์ พูล-ดิด แอนด์ เธย์ พูล-ดิด, บัท สติล เดอะ เทอนิพ สตั๊ค ฟาสท์!

  • จากนั้นไม่นาน, เจ้าหมาน้อยสีน้ำตาลได้ร้องเรียกเจ้าแมวขาว มันได้เกาะเอวเจ้าหมาน้อย ส่วนเจ้าหมาน้อยได้เกาะเอวหลานชายไว้ ส่วนหลานชายก็เกาะเอวยาย ส่วนยายก็ได้เกาะเอวตาไว้ และตาได้ดึงหัวผักกาดไว้อีกที และพวกเขาก็ช่วยกันดึง ดึงแล้วดึงอีก แต่หัวผักกาดก็ยังติดอยู่ใต้ดินอยู่อย่างนั้นไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่นิดเดียว!

So, the tiny white cat called to the sweet pink- nosed mouse and he held onto the tiny white cat, who held onto the little brown dog, who held onto the grandson, who held onto grandma, who help onto grandpa, who held onto the shoots and they pulled and they pulled and they pulled.

โซ, เดอะ ไทนี่ ไวท์ แคท คอล-ดึด ทู เดอะ สวีท พิงค์-โน๊ส เมาส์ แอนด์ ฮี เฮล์ด ออนทู เดอะ ไทนี่ ไวท์ แคท, ฮู เฮล์ด ออนทู เดอะ ลิตเติ้ล บราวน์ ด๊อก, ฮู เฮล์ด ออนทู เดอะ แกรนด์ซัน, ฮู เฮล์ด ออนทู แกรนด์ม่า, ฮู เฮล์ด ออนทู แกรนด์ป๊า, ฮู เฮล์ด ออนทู เดอะ ซูท แอนด์ เธย์ พูล-ดิด แอนด์ เธย์ พูล-ดิด แอนด์ เธย์ พูล-ดิด.

  • และแล้ว, เจ้าแมวขาวตัวน้อยได้ร้องเรียกเจ้าหนูน้อยจมูกชมพูแสนน่ารัก เจ้าหนูได้เกาะเอวเจ้าหมาน้อยน้ำตาล ส่วนเจ้าหมาน้อยได้เกาะเอวหลานชายไว้ ส่วนหลานชายก็เกาะเอวยาย ส่วนยายก็ได้เกาะเอวตาไว้ ส่วนตาได้ดึงหัวผักกาดไว้อีกที และพวกเขาก็ร่วมมือช่วยกันดึง ดึงแล้วดึงอีกอยู่อย่างนั้น.

And the turnip fell on top of grandpa, who fell on top of grandma, who fell on top of her grandson, who fell on top of the little brown dog, who fell on top of the tiny white cat, who almost nearly squashed the sweet pink-nosed mouse.

แอนด์ เดอะ เทอนิพ เฟ็ล ออน ท๊อป ออฟ แกรนด์ป๊า, ฮู เฟ็ล ออน ท็อป ออฟ แกรนด์ม่า, ฮู เฟ็ล ออน ท็อป ออฟ เฮอร์ แกรนด์ซัน, ฮู เฟ็ล ออน ท็อป ออฟ เดอะ ลิตเติ้ล บราวน์ ด็อก, ฮู เฟ็ล ออน ท็อป ออฟ เดอะ ไทนี่ ไวท์ แคท, ฮู ออโมสท์ เนียลี่ สกวอซ เดอะ สวีท พิงค์-โน๊ส เมาส์.

  • และแล้ว หัวผักกาดก็หลุดออกมาทับร่างของตาไว้, ส่วนตาก็ล้มทับยาย, ส่วนหลานชายก็ล้มทับเจ้าหมาน้อยน้ำตาล, ส่วนเจ้าหมาน้อยได้ล้มทับเจ้าแมวขาวตัวจ้อย, ส่วนเจ้าแมวก็เกือบจะล้มทับเจ้าหนูจมูกชมพูตัวน้อยๆ.

It was a giant turnip! Grandpa stood up and dusted himself off, and then each one helped the other get up. 

อิท วอส อะ ไจแอนท์ เทอนิพ! แกรนด์ป๊า สตู๊ด อัพ แอนด์ ดัส-ทึด ฮิมเซล์ฟ ออฟ, แอนด์ เด็น อีช วัน เฮ็ล์ป เดอะ ออเตอร์ เก็ท อัพ.

  • ใช่แล้ว มันเป็นหัวผักกาดยักษ์! ตาลุกขึ้นยืนและปัดฝุ่นออกจากตัวเอง, ส่วนคนอื่นๆ ก็ช่วยเหลือกันลุกขึ้นมาจากพื้นดิน. 

Then, grandpa carried the turnip into the kitchen where he chopped it all up, Chop Chop Choppity Chop into small pieces.

เด็น, แกรนด์ป๊า แครี๊ด เดอะ เทอนิพ อินทู เดอะ คิทเซ่น แวร์ ฮี ซ๊อป-เพ็ด อิท ออล อัพ, ซ็อป ซ๊อป ซ็อปพิตี้ ซ๊อป อินทู สมอล พีเซส. 
  • จากนั้น, คุณตาก็ได้แบกหัวผักกาดเข้าไปในครัว เพื่อที่จะทำความสะอาด, ปอกๆ สับๆ หั่นๆ หัวผักกาดออกเป็นชิ้นเล็กๆ ชิ้นน้อยๆ.

He added some herbs and some spices, a little of this and a little of that, and soon enough, the turnip soup was ready.

ฮี แอด-ดึด ซัม เอิร์บ แอนด์ ซัม สไปซ์, อะ ลิตเติ้ล ออฟ ดิส แอนด์ อะ ลิตเติ้ล ออฟ แดท, แอนด์ ซูน เอนนัฟ, เดอะ เทอนิพ ซุป วอส เรดดี้.

  • คุณตาเติมสมุนไพรและเครื่องปรุงหลายอย่างลงไปในชุป, ไอ้นี้นิดไอ้โน้นหน่อย, พอทุกอย่างสุกได้ที่, ชุปหัวผักกาดก็พร้อมทาน.

All of them, grandpa and grandma, grandson and the little brown dog, the tiny white cat and of course, the sweet pink-nosed mouse sat down to eat the turnip soup and it was just as delicious as they expected!

ออล ออฟ เด็ม, แกรนด์ป๊า แอนด์ แกรนด์ม๊า, แกรนด์ซัน แอนด์ เดอะ ลิตเติ้ล บราวน์ ด๊อก, เดอะ ไทนี่ ไวท์ แคท แอนด์ ออฟ คอร์ส, เดอะ สวีท พิงค์-โน๊ส เมาส์ เซ็ท ดาวน์ ทู อีท เดอะ เทอนิพ ซุป แอนด์ อิท วอส จั๊ส แอส เดลลิเซียส แอส เดย์ เอ็กเป็น-ทึด.

  • สมาชิกในบ้านทั้งหมด, ตาและยาย, หลานชายกับ เจ้าหมาน้ำตาลน้อย, เจ้าแมวขาวตัวจ้อยและที่ขาดไม่ได้คือ, เจ้าหนูจมูกชมพูตัวน้อยๆ ต่างพร้อมหน้าพร้อมตากัน นั่งทานชุปหัวผักกาดที่สุดแสนอร่อย สมใจอย่างที่พวกเขาได้คาดหวังเอาไว้.

ขอขอบคุณเนื้อหานิทานภาษาอังกฤษและภาพประกอบจาก: เว็ปไซต์ Bed time story.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

USA prenatal care & check up! ตั้งครรภ์ในอเมริกา ฝากครรภ์กี่เดือน ควรฝากตอนใหน?

การฝากครรภ์   คืออะไร ? การฝากครรภ์  (Prenatal care)  คือ การตรวจสุขภาพเป็นระยะ   ตั้งแต่รู้ตัวว่าตั้งครรภ์จนกระทั่งถึงวันคลอด   โดยคุณหมอจะคอยตรวจความเรียบร้อยเกี่ยวกับสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ สิ่งที่คุณแม่ต้องได้รับการตรวจในช่วงการฝากครรภ์ มีดังนี้ ยืนยันการตั้งครรภ์   รวมถึงตรวจอายุครรภ์จากรอบประจำเดือนล่าสุด ซักประวัติ  คุณหมอ จะถามเรื่องทั่วไป   เช่น   เคยตั้งครรภ์มาก่อนไหม   มีโรคประจำตัวหรือเปล่า   ยาที่ใช้ประจำ   เป็นต้น ตรวจร่างกาย   แบ่งเป็นสองส่วนหลักๆ   ส่วนแรกคือตรวจทั่วไป   เช่น   วัดความดัน   ชั่งน้ำหนัก   ส่วนสูง   ตรวจการทำงานของปอด   อีกส่วนคือการตรวจภายใน   ซึ่งใช้เวลาสั้นๆ   แต่สามารถเช็คความผิดปกติได้ทั้งรังไข่   ท่อนำรังไข่   ช่องคลอด   รวมถึงมะเร็งปากมดลูก   ที่สำคัญคือไม่เจ็บ ตรวจเลือด   เปรียบเสมือนการสกรีนร่างกาย   เพราะเลือดสามารถบอกค่าต่างๆ   ในร่างกายได้เป็นภาพกว้าง   เช่น  ไขมัน  เบาหวาน...

นิทานเรื่อง เพื่อนรักต่างพันธุ์ (A Special Friendship)

In a village, there was a boy named “Bob” who lived with his mother in a small house. Every day after class, Bob went into the forest to pick up woods with his mother. อิน อะ วิลเลจ, แธร์ วอส อะ บอย เนม-มึด “ป๊อบ” ฮู ลิฟ-ดึด วิธ ฮีส ม๊าเตอร์ อิน อะ สมอลล์ เฮาส์. เอฟเวอรี่ เดย์ อาฟเตอร์ คลาส, ป๊อบ เว็นท์ อินทู เดอะ ฟอเรสท์ ทู พิค อัฟ วูดส์ วิธ ฮิส ม๊าเตอร์. ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง, มีเด็กชายคนหนึ่ง เค้ามีชื่อว่า “ป๊อบ” เขาได้อาศัยอยู่กับมารดาในบ้านหลังน้อยๆ หลังหนึ่ง. ในทุกๆ วัน หลังจากเลิกเรียนแล้ว, ป๊อบมักจะเข้าไปในป่า เพื่อหาฟืนกับแม่ของเค้า. One day, on the way to the forest, Bob found a homeless puppy by the road. He looked so sad and miserable. Seeing how hungry the puppy was, Bob decided to bring him home to take care of him. วัน เดย์, ออน เดอะ เวย์ ทู เดอะ ฟอเรสท์, ป๊อบ ฟาวด์ อะ โฮมเลส พัพพี่ บาย เดอะ โรด. ฮี ลุ๊ค โซ แซด แอนด์ มิสราเบิ้ล. ซียิ้ง ฮาว ฮังกรี เดอะ พัพพี่ วอส, ป๊อบ ดีซาย-ดึด ทู บริง ฮิม โฮม ทู เทค แคร์ ออฟ ฮิม. อยู่มาวันนึง, ในระหว่างทางเดินเข้าไปในป่านั้น, ป๊อบได้เจอกั...

ชิลี่ (Classic Chili) อเมริกัน จานเผ็ด!

ชิลี่ (Chili) อาหารสุดคลาสสิคจานเผ็ดจานด่วนของชาวอเมริกัน  หรือเรียกเต็มๆ ยศว่า “อเมริกันชิลี่ (American Chili)”  “ชิลี่” (Chili) แปลง่ายๆ ตรงๆ ว่า "พริก" นี่แหละจร้าา ไม่ต้องโต๊ด!   “ชิลี่” เป็นอาหารจานหนึ่งของชาวอเมริกัน ที่มีรสเผ็ดนำ โดดเด่น เผ็ดดุ สำหรับฝรั่งเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่นับคนเอเชียอย่างเราๆ หึหึ เผ็ดอนุบาลยังเรียกน้องจ๊ะ! “ชิลี่” มีลักษณะคล้ายๆ กับ “น้ำพริกอ่อง” บ้านเรา ต่างกันตรงที่มี “เมล็ดถั่วแดง” เป็นส่วนผสม ต้มให้นุ่ม แต่ไม่เปื่อยยุ่ยมากนัก มีรสเผ็ดออกมันๆ อมเปรี้ยวนิดๆ โปรตีนเน้นๆ อ่ะ! เริ่มงงกันแล้วสิ ชิมิ ^^ “ชิลี่” นิยมทำเป็นอาหารมื้อค่ำ เพราะว่าสะดวก วัถตุดิบหาง่าย ทำง่าย ใช้เวลาตุ๋นไม่นาน “หัวหอมใหญ่” สิ่งเดียวเท่านั้นที่ต้องเตรียม! “ชิลี่” ท๊อปปิ้งสุดฮิต เพื่อเพิ่มความอร่อยมากยิ่งขึ้น เชดดาร์ชีสขูดฝอย (shredded cheddar cheese) ซาวครีม/ครีมเปรี้ยว (sour cream) ต้นหอมซอย (sliced green onions) แครกเกอร์ชนิดเค็ม (saltine crackers) อะโวคาโดหั่นลูกเต๋า (diced avocado) หลังจากแกะสูตรจากพี่กลู (กลูเกิ้ล) ฝึกทำ “ชิลี่” ลองผิดลองถูกมาก็หลายครั้งหลายคราว จน...

นิทานเรื่อง “เจ้าหญิงบนยอดเขาแก้ว” (The Princess On The Glass hill)

Long, long time ago, there lived a farmer who had three sons and forty acres of fields. But every year on mid-summers, every last plant on his land was eaten. The farmer sent his three sons out to guard the field the next year. ลอง, ลอง ไทม์ อะโก, แธร์ ลิฟ-ดึด อะ ฟาร์มเมอ ฮู แฮด ตรี ซัน แอนด์ ฟอร์ตี้ เอเคอร์ ออฟ ฟิล์ด. บัท เอเวอรี่ เยียร์ ออน มิด-ซัมเมอร์, เอเวอรี่ ลาสท์ แพลนท์ ออน ฮีส แลนด์ วอส อีท-ทีน. เดอะ ฟาร์มเมอ เซนท์ ฮีส ตรี ซัน เอาซ์ ทู การ์ด เดอะ ฟิล์ด เดอะ เน็ทซ์ เยียร์. กาลครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว, ชาวนาคนหนึ่ง เค้ามีลูกชายอยู่ด้วยกันสามคน และชาวนามีที่ทำกินสี่สิบเอเคอร์ (ประมาณร้อยกว่าไร่). แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางฤดูร้อนของทุกๆ ปี, ผลผลิตในไร่ของเค้าก็มักจะถูกทำลายเสียหายเรื่อยมา. ดังนั้น ชาวนาจึงได้ส่งลูกชายทั้งสามคนของเค้า ให้ออกไปเฝ้าดูแลผลผลิตในไร่. The oldest son, Barty, was very tall and very thin.  The middle son, Otis, was very fat and lazy.  That night he heard a scream and ran from the field. เดอะ โอลด์เดสท์ ซัน, บาร์ตี๊, วอส เวรี่ ทอล แอนด์ เวรี่ ธิน....

นิทานสองภาษาเรื่อง “เจ้าป่าจอมตะกละและกระต่ายป่าผู้ชาญฉลาด (The lion and the hare)

Once upon a time, there was a dense forest, where had lots of animals and birds living it. วันซ์ อัพพอน อะ ไทม์, แธร์ วอส อะ เดนส์ ฟอร์เรส, แวร์ แฮด ลอท ออฟ แอนนิมอล แอนด์ เบิร์ด ลิฟวิ่ง อิท. กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว, มีป่าหนาทึบอยู่แห่งหนึ่ง, ที่ซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์ป่าและนกต่างๆ นานาชนิด อาศัยอยู่ในนั้น. All the animals and birds lived in perfect harmony. No bigger animal or bird ever killed a smaller one for food. ออล เดอะ แอนนิมอล แอนด์ เบิร์ด ลิฟต์-ดึด อิน เพอเฟคท์ ฮาร์มโมนี่. โน บิ๊กเกอร์ แอนนิมอล ออร์ เบิร์ด เอฟเวอร์ คิว-ดึด อะ สมอลเลอร์ วัน ฟอร์ ฟู๊ด. เหล่าสัตว์ป่าและนกนานาชนิด ต่างอาศัยอยู่ด้วยกันอย่างผาสุข. ไม่มีสัตว์ใหญ่นักล่าไล่ฆ่าสัตว์ตัวเล็กๆ เป็นอาหารเลย หรือแม้กระทั่งพวกนกนักฆ่าเอง ก็ไม่ล่าอาหารเช่นกัน. However, there was one exception, and that was the king of the jungle- an evil lion. The lion hunted around the forest at all times and killed animals for food. ฮาวเอฟเวอร์, แธร์ วอส วัน เอ็กเซ็บชั่น, แอนด์ แธท วอส เดอะ คิง ออฟ เดอะ จังเกิ้ล- อัน อีวิ้ว ไลออน. เดอะ ไลออน ฮัน...