ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Sloppy Joes! สล็อปปี้โจส์ (อเมริกันน้ำพริกอ่อง)

แมนวิชหรือสล็อปปี้ โจส์ เบอเกอร์ซอสเนื้อสับอเมริกัน

“สล็อปปี้โจ (Sloppy Joes)” เป็นอาหารที่ประกอบด้วยเนื้อสัตว์บด หัวหอมใหญ่ ซอสมะเขือเทศ และวอร์สเตอร์เชียร์ซอส (Worcestershire sauce) และนำไปผัดทำเป็นไส้ของแซนวิช ส่วนใหญ่จะใช้ขนมปังกลมเหมือนกับขนมปังแฮมเบอร์เกอร์

Worcestershire sauce “วอร์สเตอร์เชียร์ซอส” หรือเรียกสั้นๆ ว่า “วูสเตอร์ซอส” 

“สล็อปปี้ โจส์ (Sloppy Joes)” สูตรนี้ มีวิธีการทำที่ง่าย แต่อร่อยแบบไม่ธรรมดา งบประมาณก็กำลังน่ารักเหมาะมากๆ สำหรับมื้อค่ำอันเรียบง่าย ด้วยเนื้อสับผัดซอสมะเขือเทศ ปรุงรสเพิ่มด้วยพริกหยวก หัวหอมใหญ่ ได้รสชาต นุ่มลิ้น ชุ่มฉ่ำ อร่อยจนสายฝอออกปากชมกันเลยนะจ๊ะ 

หัวใจซอสปรุงรส

วัตถุดิบสล็อปปี้ โจส์ (Sloppy Joes)

  • เนื้อสับ (Ground Beef) - ใช้เนื้อสับติดมัน หากเนื้อสับมีมันเยอะเกินไป น้องผัดเอาน้ำมันออกก่อน
  • พริกหยวก (Bell Pepper) - เราใช้พริกหยวกสีเขียว หรือใบ้สีอื่นก็ได้นะค่ะ ชอบสีอะไรก็ใช้ตามสะดวกเลยจร้า 
  • หอมหัวใหญ่ & กระเทียม (Onion & Garlic) - กลิ่นหอมๆ ของมันจะกลมกลืนไปกับเครื่องปรุงต่างๆ ฉะนั้นสำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นหอม กระเทียม ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องกลิ่นนะจ๊ะ 
  • ซอสโฮมเมด (Homemade Sauce) - รสหวานอมเปรี้ยว และหอมอบอวลด้วยกลิ่นของเครื่องเทศ จากส่วนผสมที่ลงตัวจากซอสมะเขือเทศ น้ำตาลทรายแดง มัสตาร์ด และวูสเตอร์ซอส ส่วนผสมธรรมดาเพียงไม่กี่อย่าง ก็สามารถรังสรรค์อาหารเลิศรสได้ 

ส่วนผสมต่างๆ สลอปปี้ โจส์ (Sloppy Joes Ingredients)

  • 1 Tbsp  เนย (butter)
  • 1 tsp     น้ำมันมะกอก (olive oil) **นำ้มันพืชแทนได้
  • 500 g.   เนื้อสับ (ground beef)
  • 1/3         พริกหยวก (bell pepper)
  • 1/2         หัวหอมใหญ่ (onion)
  • 1 Tbsp   กระเทียม (garlic)
  • 1 Tbsp   ซอสมะเขือเทศเข้มข้น (tomato paste)
  • 2/3 cup   ซอสมะเขือเทศ (ketchup)
  • 1/3 cup   น้ำเปล่า (water)
  • 1 Tbsp    น้ำตาลทรายแดง (brown sugar)
  • 1 tsp       มัสตาร์ด (yellow mustard)
  • 3/4 tsp    พริกป่นละเอียด (chili powder)
  • 1/2 tsp    วูสเตอร์ซอส (Worcestershire sauce)
  • 1/2 tsp    เกลือ (salt)
  • 1/4 tsp    พริกป่นหยาบ (red pepper flakes) 
  • 1/4 tsp    พริกไทยดำ (black pepper)
  • 1 tbsp     ซอสพริก (chili sauce or hot sauce)


        *Tsp = ช้อนชา, Tbsp = ช้อนโต๊ะ, Cup = ถ้วยตวง, G = กรัม 


    วิธีทำ “สล็อปปี้ โจส์” (Sloppy Joes)

1. หั่นผัก - หั่นหัวหอมใหญ่ พริกหยวก ให้เป็นลูกเต๋าขนาดประมาณ 5 มิลลิเมตร (ไม่เล็กและใหญ่เกินไป)

2. ผสมซอสนำวูสเตอร์ซอส (Worcestershire sauce) มัสตาร์ด น้ำ น้ำตาลทรายแดง และซอสมะเขือเทศ ผสมลงไปในถ้วยขนาดกลาง

ผักที่ใช้มีสองอย่าง: พริกหยวกและหัวหอมใหญ่

3. ผัดเนื้อ - เตรียมกระทะขนาดกลางอุ่นให้ร้อนด้วยไฟกลาง เมื่อกระทะร้อนได้ที่แล้ว ใส่น้ำมัน กระเทียม เนย และเนื้อสับลงไปคลุกเคล้าให้แตกกระจายออกไม่เป็นก้อนติดกันและสุกทั่วถึง ปรุงรสด้วย เกลือ พริกไทยดำ จากนั้นเพิ่มหอมหัวใหญ่และพริกหยวกที่เราหั่นเตรียมไว้ก่อนแล้วลงไป ผัดต่อจนผักเริ่มหอม

เนื้อต้องสุกทั่วถึง

เติมผัก คลุกเคล้าจนเริ่มหอม

4. ใส่ซอสปรุงรส - เร่งไฟขึ้นอีกเล็กน้อย หลังจากนั้นเทซอสที่เราผสมไว้แล้วลงไปในกระทะ ผักคลุกเคล้าจนน้ำเริ่มงวด หรือเนื้อและซอสเริ่มเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่ข้นและเหนียวจนเกินไป 

 

เพิ่มซอส ผัดต่อให้ผักนุ่ม

5. เคี่ยว - ปรุงรสเพิ่มด้วยพริกป่น พริกป่นหยาบ และซอสพริก ชิมรสให้ออกรสเปรี้ยวอมหวาน เผ็ดปลายลิ้น หรี่ไฟลงให้เบาที่สุด ปิดฝากระทะ และเคี่ยวต่ออีกประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นสามารถเติมเกลือและพริกไทยดำหรือพริกป่นได้อีก (หากชอบรสจัด)

เคี้ยวเสร็จแล้ว หน้าตาก็จะประมาณนี้ 

6. เสิร์ฟ - จัดเสิร์ฟเหมือนแซนด์วิช คือ นำเนื้อที่เราผัดเสร็จแล้ว ใช้แทนใส้เบอเกอร์ (ปกติต้องเป็นดินเนอร์โรล Dinner Rolls) โดยจะวางบนแผ่นขนมปังชิ้นล่างก่อน แล้วนำขนมปังอีกชิ้นมาวางทับซ้อนกัน เครื่องเคียงก็จะมี แตงกวาดอง (Pickles) และมันฝรั่งแผ่นทอดกรอบๆ หรืออาจเพิ่มด้วยอเมริกันชีส (หากชอบ) 


เคล็ดลับ:: หากชอบทานเผ็ด สามารถเพิ่มซอสพริกและพริกป่นได้ หรือเพิ่มรส หวาน เปรี้ยว ได้ตามชอบเลยจร้า ไม่แนะนำเพิ่มรสเค็มนะค่ะ 

การเสิร์ฟ:  สล็อปปี้ โจส์ (Sloppy Joes) มีวิธีการทานที่แตกต่างกันออกไปแล้วแต่ความชอบ ซึ่งส่วนมากนิยม; 

  • แบบทั่วไป (Classic) – เสิร์ฟด้วยขนมปังเบอเกอร์ หรือดินเนอร์โรล (Dinner Rolls) 
  • แซนด์วิชย่างสอดใส่ชีส (Grilled Cheese) – ง่ายๆด้วยการสอดใส้สล็อปปี้ โจส์ เข้าไป เพียงแค่นี้ เราก็จะได้แซนด์วิชชีสกรอบสล็อปปี้ โจส์ 
  • พิซซ่า (Pizza) – เพิ่ม “สล็อปปี้ โจส์” บนแผ่นพิซซ่าโฮมเมด โรยหน้าตามด้วยชีส ก่อนนำไปอบ เพียงแค่นี้ เราก็จะได้พิซซ่าโฮมเมดหอมๆ ยั่วๆ  
  • ราดบนเฟรนฟราย (Loaded fries) – ไม่มีอะไรที่จะอร่อยเหาะไปกว่านี้แล้วจร้าาา เพียงแค่ราดสล็อปปี้ โจส์ และชีส บนเฟรนฟราย นำไปไมโครเวฟ พอให้ชีสละลาย ก็ฟินได้แล้ว
  • ขนมปังฮอทดอก (Chili dogs) – สอดใส้ขนมฮอทดอกด้วยสล็อปปี้ โจส์ โรยหน้าด้วยชีส ง่ายๆ อร่อยน่าหม่ำไปอีกแบบ 
  • มันฝรั่งอบ (Baked potato) – ราดหน้ามันฝรั่งอบด้วย “สล็อปปี้ โจส์” หลังจากนั้นอบต่ออีกประมาณ 5-10 นาที เพียงแค่นี้ก็อร่อยฟินๆ แล้วจร้าา

เกร็ดความรู้ (Tips):: สล็อปปี้ โจส์ (Sloppy Joes) สามารถแช่แข็งได้นะจ๊ะ! 

  1. รอให้เย็น ใส่ถุงหรือกล่อง แล้วนำไปแช่แข็งได้นานถึง 4 เดือน
  2. เมื่อนำออกจากตู้แช่แข็งแล้ว ให้นำไปพักไว้ในตู้แช่เย็นธรรมดา 12 ชั่วโมงก่อนนำไปอุ่นรับประทานครั้งต่อไปค่ะ 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

USA prenatal care & check up! ตั้งครรภ์ในอเมริกา ฝากครรภ์กี่เดือน ควรฝากตอนใหน?

การฝากครรภ์   คืออะไร ? การฝากครรภ์  (Prenatal care)  คือ การตรวจสุขภาพเป็นระยะ   ตั้งแต่รู้ตัวว่าตั้งครรภ์จนกระทั่งถึงวันคลอด   โดยคุณหมอจะคอยตรวจความเรียบร้อยเกี่ยวกับสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ สิ่งที่คุณแม่ต้องได้รับการตรวจในช่วงการฝากครรภ์ มีดังนี้ ยืนยันการตั้งครรภ์   รวมถึงตรวจอายุครรภ์จากรอบประจำเดือนล่าสุด ซักประวัติ  คุณหมอ จะถามเรื่องทั่วไป   เช่น   เคยตั้งครรภ์มาก่อนไหม   มีโรคประจำตัวหรือเปล่า   ยาที่ใช้ประจำ   เป็นต้น ตรวจร่างกาย   แบ่งเป็นสองส่วนหลักๆ   ส่วนแรกคือตรวจทั่วไป   เช่น   วัดความดัน   ชั่งน้ำหนัก   ส่วนสูง   ตรวจการทำงานของปอด   อีกส่วนคือการตรวจภายใน   ซึ่งใช้เวลาสั้นๆ   แต่สามารถเช็คความผิดปกติได้ทั้งรังไข่   ท่อนำรังไข่   ช่องคลอด   รวมถึงมะเร็งปากมดลูก   ที่สำคัญคือไม่เจ็บ ตรวจเลือด   เปรียบเสมือนการสกรีนร่างกาย   เพราะเลือดสามารถบอกค่าต่างๆ   ในร่างกายได้เป็นภาพกว้าง   เช่น  ไขมัน  เบาหวาน...

นิทานเรื่อง เพื่อนรักต่างพันธุ์ (A Special Friendship)

In a village, there was a boy named “Bob” who lived with his mother in a small house. Every day after class, Bob went into the forest to pick up woods with his mother. อิน อะ วิลเลจ, แธร์ วอส อะ บอย เนม-มึด “ป๊อบ” ฮู ลิฟ-ดึด วิธ ฮีส ม๊าเตอร์ อิน อะ สมอลล์ เฮาส์. เอฟเวอรี่ เดย์ อาฟเตอร์ คลาส, ป๊อบ เว็นท์ อินทู เดอะ ฟอเรสท์ ทู พิค อัฟ วูดส์ วิธ ฮิส ม๊าเตอร์. ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง, มีเด็กชายคนหนึ่ง เค้ามีชื่อว่า “ป๊อบ” เขาได้อาศัยอยู่กับมารดาในบ้านหลังน้อยๆ หลังหนึ่ง. ในทุกๆ วัน หลังจากเลิกเรียนแล้ว, ป๊อบมักจะเข้าไปในป่า เพื่อหาฟืนกับแม่ของเค้า. One day, on the way to the forest, Bob found a homeless puppy by the road. He looked so sad and miserable. Seeing how hungry the puppy was, Bob decided to bring him home to take care of him. วัน เดย์, ออน เดอะ เวย์ ทู เดอะ ฟอเรสท์, ป๊อบ ฟาวด์ อะ โฮมเลส พัพพี่ บาย เดอะ โรด. ฮี ลุ๊ค โซ แซด แอนด์ มิสราเบิ้ล. ซียิ้ง ฮาว ฮังกรี เดอะ พัพพี่ วอส, ป๊อบ ดีซาย-ดึด ทู บริง ฮิม โฮม ทู เทค แคร์ ออฟ ฮิม. อยู่มาวันนึง, ในระหว่างทางเดินเข้าไปในป่านั้น, ป๊อบได้เจอกั...

ชิลี่ (Classic Chili) อเมริกัน จานเผ็ด!

ชิลี่ (Chili) อาหารสุดคลาสสิคจานเผ็ดจานด่วนของชาวอเมริกัน  หรือเรียกเต็มๆ ยศว่า “อเมริกันชิลี่ (American Chili)”  “ชิลี่” (Chili) แปลง่ายๆ ตรงๆ ว่า "พริก" นี่แหละจร้าา ไม่ต้องโต๊ด!   “ชิลี่” เป็นอาหารจานหนึ่งของชาวอเมริกัน ที่มีรสเผ็ดนำ โดดเด่น เผ็ดดุ สำหรับฝรั่งเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่นับคนเอเชียอย่างเราๆ หึหึ เผ็ดอนุบาลยังเรียกน้องจ๊ะ! “ชิลี่” มีลักษณะคล้ายๆ กับ “น้ำพริกอ่อง” บ้านเรา ต่างกันตรงที่มี “เมล็ดถั่วแดง” เป็นส่วนผสม ต้มให้นุ่ม แต่ไม่เปื่อยยุ่ยมากนัก มีรสเผ็ดออกมันๆ อมเปรี้ยวนิดๆ โปรตีนเน้นๆ อ่ะ! เริ่มงงกันแล้วสิ ชิมิ ^^ “ชิลี่” นิยมทำเป็นอาหารมื้อค่ำ เพราะว่าสะดวก วัถตุดิบหาง่าย ทำง่าย ใช้เวลาตุ๋นไม่นาน “หัวหอมใหญ่” สิ่งเดียวเท่านั้นที่ต้องเตรียม! “ชิลี่” ท๊อปปิ้งสุดฮิต เพื่อเพิ่มความอร่อยมากยิ่งขึ้น เชดดาร์ชีสขูดฝอย (shredded cheddar cheese) ซาวครีม/ครีมเปรี้ยว (sour cream) ต้นหอมซอย (sliced green onions) แครกเกอร์ชนิดเค็ม (saltine crackers) อะโวคาโดหั่นลูกเต๋า (diced avocado) หลังจากแกะสูตรจากพี่กลู (กลูเกิ้ล) ฝึกทำ “ชิลี่” ลองผิดลองถูกมาก็หลายครั้งหลายคราว จน...

นิทานเรื่อง “เจ้าหญิงบนยอดเขาแก้ว” (The Princess On The Glass hill)

Long, long time ago, there lived a farmer who had three sons and forty acres of fields. But every year on mid-summers, every last plant on his land was eaten. The farmer sent his three sons out to guard the field the next year. ลอง, ลอง ไทม์ อะโก, แธร์ ลิฟ-ดึด อะ ฟาร์มเมอ ฮู แฮด ตรี ซัน แอนด์ ฟอร์ตี้ เอเคอร์ ออฟ ฟิล์ด. บัท เอเวอรี่ เยียร์ ออน มิด-ซัมเมอร์, เอเวอรี่ ลาสท์ แพลนท์ ออน ฮีส แลนด์ วอส อีท-ทีน. เดอะ ฟาร์มเมอ เซนท์ ฮีส ตรี ซัน เอาซ์ ทู การ์ด เดอะ ฟิล์ด เดอะ เน็ทซ์ เยียร์. กาลครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว, ชาวนาคนหนึ่ง เค้ามีลูกชายอยู่ด้วยกันสามคน และชาวนามีที่ทำกินสี่สิบเอเคอร์ (ประมาณร้อยกว่าไร่). แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางฤดูร้อนของทุกๆ ปี, ผลผลิตในไร่ของเค้าก็มักจะถูกทำลายเสียหายเรื่อยมา. ดังนั้น ชาวนาจึงได้ส่งลูกชายทั้งสามคนของเค้า ให้ออกไปเฝ้าดูแลผลผลิตในไร่. The oldest son, Barty, was very tall and very thin.  The middle son, Otis, was very fat and lazy.  That night he heard a scream and ran from the field. เดอะ โอลด์เดสท์ ซัน, บาร์ตี๊, วอส เวรี่ ทอล แอนด์ เวรี่ ธิน....

นิทานสองภาษาเรื่อง “เจ้าป่าจอมตะกละและกระต่ายป่าผู้ชาญฉลาด (The lion and the hare)

Once upon a time, there was a dense forest, where had lots of animals and birds living it. วันซ์ อัพพอน อะ ไทม์, แธร์ วอส อะ เดนส์ ฟอร์เรส, แวร์ แฮด ลอท ออฟ แอนนิมอล แอนด์ เบิร์ด ลิฟวิ่ง อิท. กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว, มีป่าหนาทึบอยู่แห่งหนึ่ง, ที่ซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์ป่าและนกต่างๆ นานาชนิด อาศัยอยู่ในนั้น. All the animals and birds lived in perfect harmony. No bigger animal or bird ever killed a smaller one for food. ออล เดอะ แอนนิมอล แอนด์ เบิร์ด ลิฟต์-ดึด อิน เพอเฟคท์ ฮาร์มโมนี่. โน บิ๊กเกอร์ แอนนิมอล ออร์ เบิร์ด เอฟเวอร์ คิว-ดึด อะ สมอลเลอร์ วัน ฟอร์ ฟู๊ด. เหล่าสัตว์ป่าและนกนานาชนิด ต่างอาศัยอยู่ด้วยกันอย่างผาสุข. ไม่มีสัตว์ใหญ่นักล่าไล่ฆ่าสัตว์ตัวเล็กๆ เป็นอาหารเลย หรือแม้กระทั่งพวกนกนักฆ่าเอง ก็ไม่ล่าอาหารเช่นกัน. However, there was one exception, and that was the king of the jungle- an evil lion. The lion hunted around the forest at all times and killed animals for food. ฮาวเอฟเวอร์, แธร์ วอส วัน เอ็กเซ็บชั่น, แอนด์ แธท วอส เดอะ คิง ออฟ เดอะ จังเกิ้ล- อัน อีวิ้ว ไลออน. เดอะ ไลออน ฮัน...